STORY | Crossing Boundaries





เรื่องราวเบื้องหลัง


     ผมใช้เวลาส่วนใหญ่ในชีวิตเพื่อให้ได้รับการยอมรับจากผู้คนด้วยความพึงพอใจ ผมเลือกเส้นทางการศึกษาที่ดูเหมือนจะนำพาความมั่นคงและชื่อเสียงมาให้ โดยตลอดระยะเวลาที่ใช้ชีวิตอยู่ในประเทศออสเตรเลียผมละทิ้งความเป็นไทย (และในทางกลับกันก็ละถึงความเป็นออสซี่เมื่อกลับมาอยู่เมืองไทย) แม้แต่บนเส้นทางแห่งการถ่ายภาพ ในช่วงเวลาที่เก็บเกี่ยวประสบการณ์นั้นผมได้เสาะแสวงหาความถูกต้องโดยจำลองบรรทัดฐานขึ้นมาโดยอาศัยแนวทางปฏิบัติและเดินตามครรลองที่สังคมยอมรับ แต่เมื่อผมลองทำในสิ่งที่แตกต่างออกไปกลับไม่ได้รับความเห็นที่เป็นประโยชน์ในการทำงาน ซึ่งที่ผ่านมานั้นการเรียนรู้ในงานศิลปะภาพถ่ายที่ผมรัก ได้เป็นไปตามวิถีธรรมชาติแบบค่อยเป็นค่อยไป โดยไม่ได้ผูกตรึงกับประเภทหรือแบบฉบับอย่างใดอย่างหนึ่ง

     การนำเสนอผลงานชุด “ข้ามเขตแดน” นี้ สะท้อนถึงความชื่นชอบตามธรรมชาติที่ต้องเป็นไปในทิศทางเดียวกันกับความคาดหวังของสังคม โดยในส่วนลึกของจิตใจนั้นก็ยังมีความกังวลเกี่ยวกับการเป็นที่ยอมรับ ซึ่งผมได้ประเมินตนเองไว้แล้วในการยืนยันตัวเลือกของชีวิตนี้ไว้ ซึ่งผลงานภาพถ่ายชุดนี้ยังเป็นการตอกย้ำถึงการมองโลกในเชิงบวกของการก้าวข้ามขอบเขตที่จำกัดในชีวิต

ผลงานภายใต้ชุด “ข้ามเขตแดน” ได้รับแรงบันดาลใจมาจากแรงกดดันทางสังคม โดยเป็นผลจากการแปลความหมายของสิ่งที่พบเห็นผิดไปจากความจริง (Visual illusion) ที่สามารถพบเห็นได้ในพื้นที่สาธารณะ และผลงานชุดนี้ยังได้รับอิทธิพลจากภาพวาดสมัยใหม่ อันได้แก่ ศิลปะที่สื่อพลังอารมณ์แนวนามธรรม (Abstract Expressionism) โดยการใช้ภาพตัดปะและภาพแคนดิดในรูปแบบร่วมสมัยรวมถึงภาพที่เกี่ยวข้องทางการเมืองและสังคม โดยภาพผลงานทั้งหมดนี้ได้แสดงให้เห็นและเน้นย้ำถึงช่วงเวลาที่หายไปกับมุมต่าง ๆ อันมหัศจรรย์ ล้วนแล้วแต่อยู่รอบตัวเราทั้งสิ้น ได้แก่ รูปแบบ ลวดลาย และสีสันที่มีชีวิตชีวา เพื่อเล่าเรื่องราวและสื่อความหมายออกมาในแนวสร้างสรรค์ ผลงานทั้งหมดนี้ได้ผ่านการขบวนการพัฒนาแบบภาพซ้อนเพื่อสร้างเมทริกซ์ที่เป็นองค์ประกอบภายในออกมาเป็นภาพกึ่งนามธรรม

     เนื่องจากผมไม่สามารถแยกแยะขอบเขตและพรมแดนออกจากประสบการณ์ที่มีของผู้คนที่เกิดขึ้นในสังคมได้ ผลงานภาพบางส่วนในชุดนี้จึงได้ใช้รูปแบบของการถ่ายภาพบุคคลมาเป็นองค์ประกอบสำคัญ ส่วนชุดรูปที่แสดงใบหน้าบุคคลแบบกระชั้นชิด ซึ่งนิยมใช้ในการถ่ายภาพโฆษณานั้น โดยที่มุมหลักของใบหน้านั้นถูกแบ่งย่อยออกเป็นชั้น ๆ ในลักษณะของเลเยอร์ที่ซ้อนกัน ทำให้รู้สึกว่าบุคคลในภาพนั้นได้หลุดลอยไปจากความเป็นจริงจนไกลเกินเอื้อม การซ้อนทับของเลเยอร์เปรียบดั่งเช่นอุปสรรคที่มีอยู่ในตนเอง ส่วนภาพที่มีลักษณะเหมือนกับตัวแบบกำลังพุ่งไปข้างหน้านั้น ชวนให้นึกถึงภาพถ่ายในหนังสือเดินทาง โดยมีลักษณะของการจ้องมองอย่างไม่ลดละเป็นการแสดงให้เห็นถึงความไม่ยินดียินร้ายกับการถูกล่วงล้ำเข้ามาในขอบเขต

     ภาพในกลุ่มสุดท้ายของผลงานชุดนี้เป็นการผสมผสานเทคนิคของการถ่ายภาพทั้งแบบดิจิตอลและแบบแอนะล็อก ซึ่งทำให้เกิดโครงสร้างพิกเซลที่แสดงให้เห็นรายละเอียดของเลเยอร์ในแต่ละชั้นเพื่อสะท้อนให้เห็นถึงธรรมชาติของชีวิตในสังคมเมืองและวิถีแห่งกฏเกณฑ์ทั้งหลาย รวมถึงความเข้มงวดและม่านของประเพณี โดยการกระจายตัวของสีสันหลากหลายที่ทับซ้อนกัน บ่งบอกถึงอารมณ์และความซับซ้อนของปฏิสัมพันธ์ต่าง ๆ ผมได้เลือกใช้เทคนิคเหล่านี้เพื่อเป็นการสื่อถึงระดับความเข้าใจในการสื่อสารและความทรงจำ การใช้วิธีการทำซ้ำ ๆ และการเบลอเพื่ออ้างอิงถึงประสบการณ์ต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นในพื้นที่สาธารณะ และความเจิดจำรัสของสีสันที่ส่งตรงออกมาจากภาพนั้นเป็นการถ่วงดุลกับสิ่งลึกลับภายในที่ไม่อาจจับต้องได้ สิ่งเหล่านี้เองที่ทำให้เกิดมีพื้นที่สำหรับจินตนาการและการตีความ

     ‘Crossing Boundaries’ เป็นการสร้างประสบการณ์ในการดูภาพถ่ายมีชีวิตที่สอดแทรกไปด้วยความน่าตื่นเต้นอย่างที่ประสบการณ์ของเราในชีวิตจริงมักจะเป็น ซึ่งภายในนั้นมีความเป็นโลกเสมือนอื่น ๆ แฝงเร้นอยู่ในโลกแห่งความฝันที่มีพื้นที่จำกัดและเป็นที่ซึ่งความหวังและความกลัวของเราอาศัยอยู่  ภาพถ่ายชุดนี้มีลักษณะที่โดดเด่นเห็นแจ้งอย่างเป็นรูปธรรม ด้วยองค์ประกอบที่แข็งแกร่งของสีที่คมชัดและจัดจ้าน แต่ในขณะเดียวกันก็เกิดการไหลเวียนไปบรรจบในจุดเดียวกัน ซึ่งสิ่งที่เราเห็นอยู่นี้ได้นำมาใช้ในการอธิบายถึงความไม่แน่นอนของจิตใต้สำนึกที่มีในแต่ละคน

     ขอบเขตของสังคมนั้นไม่จำเป็นต้องมีลักษณะทางกายภาพ แต่เกิดจากประสบการณ์ในชีวิตที่ยังยึดติดกับสิ่งที่มองไม่เห็นหรือจับต้องไม่ได้ แต่กลับส่งผลต่อสมองและอารมณ์ของเราโดยตรง ผลงานชุด ข้ามเขตแดน ปรารถนาให้ท่านได้มองข้ามสิ่งต่าง ๆ ที่เราเคยได้ประสบพบมาด้วยการปรับมุมมองใหม่ เพื่อการรับรู้และตระหนักถึงศักยภาพที่แท้จริงที่มีอยู่ในตัวเอง

“เมื่อคุณเป็นอิสระจากขอบเขตโดยสิ้นเชิง คุณไม่จำเป็นต้องมีสิ่งของมากมายมหาศาล คุณเป็นเจ้าของสิ่งที่มีค่ายิ่งกว่านั้นคือคุณเป็นเจ้าของตัวเอง” — ดีพัค โชปรา 

BRYCE | ไบรซ์ วัฒนโสภณวงศ์

The Visual Art Photography Hub of BRYCE Watanasoponwong
Website via Visura

BRYCE | ไบรซ์ วัฒนโสภณวงศ์ is integrated to:
Visura site builder, a tool to grow your photography business
Visura's network for visual storytellers and journalists
A photography & film archive by Visura
Photography grants, open calls, and contests
A newsfeed for visual storytellers